ภาวะเลือดหนืด เลือดข้น คือการมีปริมาณเม็ดเลือดแดงสูงขึ้นมาก และถ้าเป็นมากขึ้น จะทำให้เลือดหนืด หรือเลือดข้นขึ้น ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ช้าลงหรือเลือดติดขัด ทำให้เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดได้ง่าย
อาการเบื้องต้นที่พบบ่อยของภาวะเลือดหนืดมีอะไรบ้าง ?
1. ปวดศีรษะเรื้อรัง ปวดศีรษะรุนแรง
2. เวียนศีรษะ หน้ามืด คลื่นไส้ อาเจียน
3. เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย อ่อนแรง
4. การมองเห็นผิดปกติ เช่น ตาแดงที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ตาพร่า
5. เจ็บแน่นหน้าอก หายใจลำบาก
6. มีจุดแดงๆ เป็นจ้ำๆ ทั่วตัว หน้าแดงผิดปกติ
7. รวมถึงไม่ได้มีอาการใดๆ มาก่อน แต่ตรวจพบความผิดปกติจากการตรวจเลือด
แล้วสาเหตุของเลือดหนืดมากจากอะไรบ้าง ?
ภาวะเลือดหนืด เลือดข้นมีหลายประเภท แต่ละประเภทจะแบ่งตามสาเหตุที่ทำให้เกิด โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
– การที่มีน้ำหนักตัวเกิน การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
– การใช้ยาขับปัสสาวะ หรือเป็นผลมาจากภาวะขาดน้ำในร่างกาย
– การทำงานของไขกระดูกผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงออกมาในปริมาณที่มากเกินไป แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. มีความผิดปกติของ สารพันธุกรรมเจเอเคทู (JAK2) ทำให้ไขกระดูกผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงในปริมาณที่มากผิดปกติ และผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดในปริมาณที่มากผิดปกติด้วยเช่นกัน มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ
2. การผลิตฮอร์โมนอีริโทรโพอิติน (Erythropoietin) ซึ่งทำหน้าที่ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีส่วนสำคัญในการเพิ่มระดับฮีโมโกลบิน เพื่อช่วยในการลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ในปริมาณที่มากเกินไป หรืออาจเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น
– โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ จึงส่งผลให้ออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ไม่เพียงพอ จึงผลิตฮอร์โมนอีริโทโพอิตินมากขึ้น
– มีปัญหาที่เกี่ยวกับไต เช่น เนื้องอกในไต หรือการตีบของหลอดเลือดแดงในไต เป็นต้น
ภาวะเลือดหนืด เลือดข้น มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?
1. มีอาการคันผิวหนังโดยเฉพาะ รวมถึงเกิดแผลต่าง ๆ ได้ง่ายที่บริเวณผิวหนังและที่เยื่อเมือกบุอวัยวะภายในต่าง ๆ เช่น หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
2. มีโอกาสที่โรคนี้จะเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ประมาณ 15% โดยมักเกิดหลังการวินิจฉัยโรคเลือดหนืดได้ประมาณ 10 ปีขึ้นไปแล้ว
3. เกิดภาวะแทรกซ้อนสามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะเลือดจะไหลเวียนได้ช้าลงทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดสูงขึ้น เกิดการอุดตันในหลอดเลือด เช่น หลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์หรืออัมพาต แต่หากอุดตันหลอดเลือดหัวใจก็จะนำไปสู่โรคหัวใจวายเฉียบพลัน และสามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้
ป้องกันและดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อป้องกันภาวะเลือดหนืด ?
1. ออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงมลพิษ
2. ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมาก ๆ
3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่
4. พักผ่อนให้เพียงพอ และทานสมุนไพรที่ช่วยการไหลเวียนโลหิต
สมุนไพรกลุ่มที่ช่วยในการไหลเวียนโลหิต กระจายลม บำรุงสุขภาพแบบองค์รวม
1. คำฝอย บำรุงเลือด ลดไขมันในเส้นเลือด
2. ขมิ้นชัน กระตุ้นการสร้างเลือด ขับลม
3. กฤษณา บำรุงโลหิตและหัวใจ
4. กระวาน กระจายลม บำรุงธาตุ
5. กระชายดำ กระจายเลือดและลมให้ทั่วร่างกาย บำรุงกำลัง
6. กระเจี๊ยบ ช่วยในการลดไขมันที่เกาะตามเส้นเลือด
7. มะขามป้อม ฟอกเลือด ช่วยระบาย
ภาวะเลือดหนืด เลือดข้น ไม่ใช่สิ่งที่ควรมองข้าม เนื่องจากในปัจจุบันมีปัจจัยหลายๆ อย่าง ที่ทำให้ผู้คนมีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือดมากขึ้น ควรรีบป้องกันและเเก้ไขตั้งเเต่เนิ่นๆ ไม่ควรปล่อยไว้จนส่งผลเสียต่อสุขภาพในอนาคตได้
สมุนไพรต้นตำรับราชวงศ์จีน ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมจากภายในสู่ภายนอก บำรุงเลือด บำรุงธาตุ
รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://www.pr9.co.th/home/%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B9%8A%E0%B8%B0%E0%B8%AE%E0%B9%89%E0%B8%AD/